10 อันดับรถไฟฟ้าวิ่งไกลสุดต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

รถยนต์ไฟฟ้าหรือรถ EV (Electric Vehicle) คือรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยหลักการทำงานของรถไฟฟ้านั้นจะมีองค์ประกอบหลัก 3 ส่วน คือ แบตเตอรี่ อุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้า และมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งขั้นตอนการทำงานของรถไฟฟ้าจะเริ่มต้นจากแบตเตอรี่ที่เป็นแหล่งเก็บพลังงานไฟฟ้ากระแสตรง ตัวแปลงกระแสไฟฟ้าจะดึงพลังงานจากแบตเตอรี่ไปเปลี่ยนเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ และส่งต่อไปยังตัวมอเตอร์เพื่อขับเคลื่อนเครื่องยนต์ให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า

ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าหนึ่งครั้ง จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปวิ่งได้ไกลประมาณ 300-400 กิโลเมตร ซึ่งรถแต่ละคันจะวิ่งได้ไกลแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ขนาดและความจุของแบตเตอรี่ ประเภทของมอเตอร์ ประสิทธิภาพการชาร์จ สภาพอากาศ และพฤติกรรมการขับขี่ แต่อย่างไรก็ตามยังมีรถไฟฟ้าบางรุ่นที่วิ่งได้ไกลกว่าค่าเฉลี่ยนี้ ซึ่งจะมีรถรุ่นไหนแบรนด์อะไรบ้างนั้น เราได้รวบรวม 10 อันดับรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งไกลสุดต่อการชาร์จ 1 ครั้งมาไว้ให้ในบทความนี้แล้ว

รวมรถไฟฟ้าวิ่งไกลสุดเพียงชาร์จแค่ครั้งเดียว

1. Mercedes-EQS 450+

ความจุแบตเตอรี่: 107.8 kWh
วิ่งได้ไกลสูงสุด: 770 กม./ชาร์จ (มาตรฐาน WLTP)
ราคา Mercedes-EQS 450+: 8,570,000 บาท (รุ่นนำเข้า CBU)
ปีที่ผลิตครั้งแรก: 2564

Mercedes-EQS เป็นรถยนต์ไฟฟ้าซีดานหรูรุ่นแรกของ Mercedes-Benz พัฒนาบนแพลตฟอร์ม EVA (Electric Vehicle Architecture) ที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ตัวรถมีดีไซน์ภายนอกที่ดูหรูหรา ล้ำสมัย และมีความสะดวกสบายเทียบเท่า S-Class รุ่นท็อป ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งไกลสุดอันดับ 1 ในลิสต์นี้เลยทีเดียว

2. Tesla Model S Long Range

ความจุแบตเตอรี่: 100 kWh
วิ่งได้ไกลสูงสุด: 663 กม. /ชาร์จ (มาตรฐาน WLTP)
ราคา Tesla Model S Long Range: 2,600,000 บาท
ปีที่ผลิตครั้งแรก: 2561

Tesla Model S Long Range เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ Tesla ที่วิ่งได้ไกลกว่า 400 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตัวรถมีจุดเด่นในเรื่องของสมรรถนะที่ทรงพลัง อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีการจัดการพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ เพื่อยืดระยะทางการขับขี่ของรถให้ได้มากที่สุด ส่งผลให้รถยนต์คันนี้ติดอันดับรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งไกลสุดในลิสต์นี้ได้อย่างไม่ต้องสงสัย

3. BMW iX xDrive50

ความจุแบตเตอรี่: 111.5 kWh
วิ่งได้ไกลสูงสุด: 630 กม./ชาร์จ (มาตรฐาน WLTP)
ราคา BMW iX xDrive50: 5,999,000 บาท
ปีที่ผลิตครั้งแรก: 2564

BMW iX xDrive50 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า SUV ขนาดกลางที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัยและสมรรถนะภายในอันทรงพลัง ตัวรถมีการออกแบบที่ดูเรียบง่าย หรูหรา แต่ห้องโดยสารเต็มไปด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกครบครัน อีกทั้งยังใช้วัสดุคุณภาพสูงในการผลิต มีพื้นที่กว้างขวาง นั่งสบาย คุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอน

4.Kia EV6 Long Range

ความจุแบตเตอรี่: 77.4 kWh
วิ่งได้ไกลสูงสุด: 528 กม./ชาร์จ (มาตรฐาน WLTP)
ราคา Kia EV6 Long Range: 1,549,000 บาท
ปีที่ผลิตครั้งแรก: 2564

Kia EV6 Long Range เป็นรถ SUV ไฟฟ้าที่มีดีไซน์โดดเด่น เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย และมีสมรรถนะภายในที่เหนือชั้น นับเป็นอีกหนึ่งรถ EV ที่ไม่เป็นรองรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งไกลสุดรุ่นอื่น ๆ ในลิสต์นี้เลย

5.Hyundai IONIQ 5 Long Range

ความจุแบตเตอรี่: 72.6 kWh
วิ่งได้ไกลสูงสุด: 481 กม. / ชาร์จ (มาตรฐาน WLTP)
ราคา Hyundai IONIQ 5 Long Range: 2,399,000 บาท
ปีที่ผลิตครั้งแรก: 2564

Hyundai IONIQ 5 Long Range เป็นรถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์เรียบหรู แต่ยังคงความโดดเด่นและความเป็น Hyundai ได้อย่างลงตัว ตัวรถมีภายในที่กว้างขวาง เบาะนั่งปรับระดับไฟฟ้าได้ มีหน้าจอสัมผัส 12.3 นิ้ว 2 จอ รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระที่จุได้ถึง 527 ลิตร (1,587 ลิตร หากพับเบาะหลัง) เป็นอีกหนึ่งรถ SUV ไฟฟ้าที่ทรงประสิทธิภาพและน่าจับจองเป็นอย่างยิ่ง

6.Tesla Model 3 Long Range

ความจุแบตเตอรี่: 82 kWh
วิ่งได้ไกลสูงสุด: 602 กม./ชาร์จ (มาตรฐาน EPA)
ราคา Tesla Model 3 Long Range: 1,899,000 บาท
ปีที่ผลิตครั้งแรก: 2561

Tesla Model 3 Long Range เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ให้ประสบการณ์ขับขี่ที่นุ่มนวลและสะดวกสบายมากขึ้น ตัวรถมีการออกแบบภายนอกที่เรียบง่ายแต่ดูทันสมัย ภายในห้องโดยสารมีความกว้างขวางและโปร่งสบาย เบาะนั่งรองรับสรีระผู้โดยสารได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งตัว Model 3 นี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย เช่น ระบบ Autopilot ที่ช่วยขับขี่อัตโนมัติ หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 15 นิ้ว และระบบอัปเดตซอฟต์แวร์แบบไร้สาย ที่เป็นประโยชน์อย่างมากต่อเจ้าของรถ

7. Ford Mustang Mach-E GT

ความจุแบตเตอรี่: 91 kWh
วิ่งได้ไกลสูงสุด: 435 กม./ชาร์จ (มาตรฐาน EPA)
ราคา Ford Mustang Mach-E GT: 4,665,000 บาท
ปีที่ผลิตครั้งแรก: 2564

Ford Mustang Mach-E GT เป็นรถ SUV ไฟฟ้าที่มีดีไซน์หรูหราโดดเด่น แต่ยังคงความโฉบเฉี่ยวและความทันสมัยไว้ได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าแรง ๆ แต่ยังคงมีพื้นที่ใช้สอย สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน

8. Audi e-tron GT quattro

ความจุแบตเตอรี่: 93.4 kWh
วิ่งได้ไกลสูงสุด: 488 กม./ชาร์จ (มาตรฐาน WLTP)
ราคา Audi e-tron GT quattro: 6,849,000 บาท
ปีที่ผลิตครั้งแรก: 2564

Audi e-tron GT quattro เป็นรถสปอร์ตไฟฟ้า 4 ประตู 5 ที่นั่ง ตัวรถมีรูปทรงภายนอกที่ดูหรูหรา ทรงสปอร์ต ดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัย เส้นสายคมชัด ภายในห้องโดยสารมีพื้นที่กว้างขวาง เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีล้ำสมัย อีกทั้งระบบความปลอดภัยและระบบอำนวยความสะดวกครบครัน

9. Porsche Taycan 4S

ความจุแบตเตอรี่: 79.2 kWh
วิ่งได้ไกลสูงสุด: 463 กม./ชาร์จ (มาตรฐาน WLTP)
ราคา Porsche Taycan 4S: 7,550,000 บาท
ปีที่ผลิตครั้งแรก: 2563

Porsche Taycan ถือเป็นรถสปอร์ตไฟฟ้ารุ่นแรกที่ Porsche เดินสายผลิต โดยตัวรถได้รับการออกแบบให้มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเรียบหรู โฉบเฉี่ยวและมีความทันสมัย แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความคลาสสิคและคงเอกลักษณ์ของ Porsche 911 ไว้ได้อย่างลงตัว ส่วนภายในห้องโดยสารนั้นตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง พร้อมติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีล้ำสมัยไว้มากมาย

10. Volvo XC40 Recharge Pure Electric

• ระยะทางที่วิ่งได้จริงอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ สภาพอากาศ และปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
• ราคารถยนต์อาจมีการคลาดเคลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา คุณสามารถเช็กราคารถได้โดยตรงบนเว็บไซต์ทางการ 
• มาตรฐาน WLTP (Worldwide Harmonised Light Vehicle Test Procedure) เป็นมาตรฐานระยะทางรถยนต์ไฟฟ้าที่ทดสอบการสิ้นเปลืองพลังงานและมลพิษของรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ทั่วโลก
• มาตรฐาน EPA (Environmental Protection Agency) เป็นมาตรฐานทดสอบการสิ้นเปลืองพลังงานและมลพิษของรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ในสหรัฐอเมริกา

รถยนต์ไฟฟ้ายังต้องใช้ CTEK ไหม?

รถยนต์ไฟฟ้านอกจากจะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ไว้ขับเคลื่อนแล้ว ก็ยังมีแบตเตอรี่ลูกเล็ก ที่เป็นแบตเตอรี่ 12V สำหรับสตาร์ทรถและจ่ายไฟไปเลี้ยงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ  ซึ่งถ้าจอดนาน แบต 12V ลูกเล็กนี้ก็เสื่อมเหมือนกัน จึงยังต้องใช้ที่ชาร์จแบตรถยนต์ CTEK เพื่อป้องกันแบตเสื่อมเมื่อจอดไม่ได้ขับเป็นเวลานาน หรือขับน้อยกว่าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ฉะนั้นหากคุณจำเป็นต้องจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน ก็ควรใช้ CTEK ก่อนสาย เพราะอาการแบตเตอรี่เสื่อมจากการจอดนานสามารถเกิดขึ้นได้กับรถทุกคันทุกประเภท

ดูแลแบตเตอรี่รถจอดนานอย่างถูกต้อง ด้วย CTEK จากสวีเดน

การดูแลแบตเตอรี่ที่ดีที่สุด คือการชาร์จไฟแบตเตอรี่ให้เต็มอยู่ตลอดเวลา CTEK จากสวีเดน ช่วยดูแลแบตเตอรี่ให้เต็มอยู่ตลอดเวลาโดยไม่ต้องเอารถไปวนขับ หรือคอยสตาร์ทรถให้เสียเวลา และ CTEK เป็นเจ้าของเทคโนโลยีลิขสิทธิ์การชาร์จที่ปลอดภัยต่อแบตเตอรี่ ระบบไฟภายในรถ และผู้ใช้งาน เพียงแค่เสียบปลั๊กไฟบ้านแล้วคีบขั้วแบตเตอรี่ หรือแบตเตอรี่ Terminal โดยไม่ต้องถอดขั้วแบตเตอรี่ หรือยกแบตเตอรี่ออกจากรถ CTEK ก็จะชาร์จแบตเตอรี่รถของคุณให้เต็มโดยอัตโนมัติเหมือนชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือ สะดวก ไม่ต้องเฝ้า สามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือนโดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสีย ไม่ต้องคอยสตาร์ท ไม่ต้องเอารถไปวนขับให้สิ้นเปลืองทั้งเวลาและน้ำมันอีกต่อไป

ซึ่งเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK ที่อยากแนะนำให้คุณได้ลองใช้คือ CTEK MXS 5.0 เครื่องชาร์จแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ (รถ EV ก็ใช้ได้) มีกระแสชาร์จสูงสุด 5A สำหรับแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด 12V ขนาด 1.2 - 110Ah รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ไม่มีความรู้เรื่องช่างก็สามารถใช้งานได้ ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติแทบทั้งหมด ตัวเครื่องนั้นมีขนาดเล็ก กะทัดรัด น้ำหนักเบา แต่ทนทานสูงสุด รับประกันถึง 5 ปี หากคุณกำลังมองหาเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ที่ครอบคลุมตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงมอเตอร์ไซค์หรือบิ๊กไบค์ CTEK MXS 5.0 ตอบโจทย์ความต้องการของคุณอย่างแน่นอน 

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก: Ev-database, Autospinn, car2day.com