5 เทคนิคดูแลแบตเตอรี่ในหน้าร้อน

หน้าร้อนนี้ ดูแลแบตเตอรี่รถยังไง? แชร์ 5 เทคนิคดี ๆ ในการดูแลแบตเตอรี่ในหน้าร้อน ชะลอการเสื่อมสภาพ ยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถคุณให้นานขึ้น

ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน ก็ยิ่งร้อนขึ้นไปอีก นอกจากจะเป็นอันตรายกับมนุษย์ ทำให้เสี่ยงต่อโรคลมแดด หรือภาวะฮีทสโตรกแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อรถยนต์ที่คุณรัก ทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น ระบายความร้อนได้ไม่ดี ส่งผลกับระบบไฟฟ้าในรถยนต์ และอาจไปทำร้ายแบตเตอรี่ให้เสื่อมสภาพไวขึ้นอีกด้วย แล้วในหน้าร้อนแบบนี้ ควรดูแลแบตเตอรี่รถยนต์อย่างไร? มาดูเทคนิคดี ๆ กัน 

เทคนิคดูแลแบตเตอรี่ในหน้าร้อน

1. เช็กแบตเตอรี่เดือนละครั้ง

   ตรวจเช็กระบบไฟฟ้าและแบตเตอรี่อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ว่ามีความผิดปกติตรงไหนหรือไม่ หากจุดไหนมีปัญหาควรนำเข้าอู่หรือศูนย์ให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบและแก้ไขให้
    

2. ถึงที่หมาย อย่าลืมระบายความร้อน

   กรณีต้องเดินทางไกล เมื่อถึงที่หมายแล้วอย่าลืมเปิดฝากระโปรงรถ ให้เครื่องยนต์และแบตเตอรี่ระบายความร้อนได้เร็วขึ้น และควรพักระหว่างทางด้วยเช่นกัน เพื่อให้ไม่เครื่องยนต์และแบตเตอรี่ร้อนเกินไป
   
   

3. เช็กน้ำกลั่นแบตเตอรี่เป็นประจำ

   ในช่วงที่อากาศร้อนจัด ควรเช็กน้ำกลั่นแบตเตอรี่อย่างน้อย สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และหมั่นเติมเมื่อระดับน้ำกลั่นในแบตฯ ลดลง โดยต้องระวังไม่ให้เติมมากเกินไป เพราะอาจทำให้ขั้วแบตเตอรี่มีขี้เกลือขึ้นได้
   
   
   

4. เลือกความจุแบตเตอรี่ให้เหมาะสม

   ควรเลือกแบตเตอรี่ที่มีขนาดความจุ (AH) เหมาะสมกับรถยนต์ของคุณ โดยสามารถให้ช่างเทคนิคที่มีความรู้ช่วยตรวจเช็กและให้คำแนะนำในด้านนี้ได้
   
   

5. พยายามไม่จอดรถกลางแจ้ง

   การจอดรถกลางแจ้ง นอกจากจะทำให้สีรถซีดเร็วกว่าปกติแล้ว ยังทำให้ชิ้นส่วนและระบบต่าง ๆ ภายในรถยนต์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น หากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ควรใช้ม่านบังแดด หรือเปิดหน้าต่างเล็กน้อยระบายความร้อน (เฉพาะในที่ปลอดภัยเท่านั้น) และเมื่อจะออกเดินทาง หลังสตาร์ตเครื่องยนต์แล้วอย่าเพิ่งออกรถทันที ควรจอดไว้กับที่สักพัก เพื่อให้เครื่องยนต์และระบบต่าง ๆ ภายในรถเย็นลงก่อน
   
   

แบตเตอรี่รถยนต์ เป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนที่มีความสำคัญกับรถยนต์ ทำหน้าที่เป็นแหล่งเก็บและจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ ให้สามารถทำงานได้ หากแบตเตอรี่มีปัญหา ชำรุด หรือเสื่อมสภาพ รถยนต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างที่ควรจะเป็น การดูแลรักษาแบตเตอรี่จึงเป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ เพราะนอกจากจะช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยชะลอการเสื่อมสภาพ ยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้นอีกด้วย

เลือกซื้อรถยนต์มือสองในราคาที่ถูกใจได้ที่เว็บไซต์ Chobrod.com

แต่หากคุณเป็นคนที่จอดรถทิ้งไว้นาน ๆ ไม่ค่อยได้เอาออกไปขับ จำเป็นต้องมีการดูแลรักษาแบตเตอรี่เป็นพิเศษ เนื่องจากแบตเตอรี่จะค่อย ๆ คายประจุไฟจนอ่อนลง ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด เมื่อปล่อยทิ้งไว้นานแบตเตอรี่จะเสื่อมสภาพ แม้ชาร์จแล้วก็อาจไม่สามารถเก็บประจุไฟได้ ดังนั้นควรนำรถออกขับบ้างอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเป็นระยะทาง 100 กม. ขึ้นไป เพื่อชาร์จแบตให้เต็ม หรือใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์คอยชาร์จแบตฯให้เต็มตลอดเพื่อยืดอายุการใช้งาน