Last updated: 24 มิ.ย. 2567 | 84752 จำนวนผู้เข้าชม |
หลังจากที่ Tesla, MG, BMW, Volvo, Neta, Ora เข้ามาบุกตลาดรถไฟฟ้า EV ในไทย และ BYD ตามเข้ามาทำตลาดเพิ่มทางเลือกที่คุ้มค่าทำให้รถ EV ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในปลายปี 2023 และกระแสได้พุ่งแรงยิ่งขึ้นอีกเมื่อแบรนด์ GAC AION และ CHANGAN เข้ามาเปิดตัวในช่วงปลายปีทำให้ตลาดรถไฟฟ้าในไทยเติบโตถึง 684% ในปี 2023 การแข่งขันอย่างดุเดือดก็ทำให้ราคาลดลง ทำให้หลายคนหันมาสนใจพิจารณารถไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ จนเกิดคำถามตามมาว่าซื้อรถ EV ในตอนนี้คุ้มค่าแล้วหรือไม่? ใช้รุ่นไหนดี? วันนี้ APRTECH จึงได้รวบรวมรถไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมและราคาจำหน่ายมาฝากทุกคนครับ ใครที่อยากรู้ราคา อยากเปรียบเทียบความคุ้มค่าว่าคันไหนเหมาะสมกับความต้องการมากที่สุด บทความนี้มีคำตอบ
ภาพจาก Tesla
Tesla Model 3 เป็นรถเก๋งไฟฟ้าขนาดกลางที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,599,000 บาท โดยรุ่นที่เราอยากแนะนำคือรุ่นปี 2024 ที่ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นปี 2023 เล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วก็ยังคงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความคุ้มค่าอยู่ ซึ่ง Tesla Model 3 ปี 2024 จะมีให้เลือกด้วยกันสองรุ่นคือ รุ่น Single Motor RWD และ รุ่น Dual Motor AWD
ภาพจาก Volvo
Volvo XC40 Recharge Pure Electric เป็นรถ SUV ไฟฟ้าจาก Volvo ที่ใช้แพลตฟอร์ม CMA (Compact Modular Architecture) เดียวกันกับ XC40 รุ่นสันดาปภายใน เปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 ตัวรถได้รับการยกย่องจากประสิทธิภาพ เทคโนโลยี และการออกแบบที่ทันสมัย มีให้เลือกสองรุ่นย่อยคือ คือรุ่น Single Motor และรุ่น Twin Motor
ภาพจาก EVO
BMW i4 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดกลางที่ผลิตโดย BMW เปิดตัวครั้งแรกในปี 2021 ปัจจุบันมีให้เลือกสองรุ่นย่อยคือ BMW i4 eDrive40 และ BMW i4 M50
BMW i4 ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 70.25-84.03 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยกำลังไฟสูงสุด 200 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จจาก 10% เป็น 80% ได้ในเวลาเพียง 31 นาที ถือเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่โดดเด่นทั้งดีไซน์ และสมรรถนะโดยรวมที่ยอดเยี่ยมไม่เป็นสองรองใคร
ภาพจาก headlightmag
Hyundai Ioniq 6 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดกลางที่พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม E-GMP ของ Hyundai เปิดตัวครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2022 และเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2022 oniq 6 มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและล้ำสมัย โดยมีเส้นสายที่เรียบง่ายและสะอาดตา ไฟหน้าและไฟท้ายเป็นแบบ Parametric Pixel ซึ่งเป็นการออกแบบที่โดดเด่นของ Hyundai ในปัจจุบัน ตัวรถมีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่นย่อย ได้แก่
Ioniq 6 มาพร้อมกับแบตเตอรี่แพ็คความจุ 77.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งสามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 614 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ภาพจาก autolifethailand
BYD Atto 3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า SUV ที่ผลิตโดย BYD บริษัทรถยนต์สัญชาติจีน เปิดตัวครั้งแรกในปี 2022 วางจำหน่ายในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย Atto 3 มีรุ่นย่อยทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกันคือ
ภาพจาก GWM ORA Thailand
ORA Good Cat เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด 5 ประตู ผลิตโดยบริษัท Great Wall Motors (GWM) จากประเทศจีน เปิดตัวในประเทศไทยครั้งแรกในปี 2021 ORA Good Cat มีการออกแบบภายนอกที่โดดเด่นสไตล์ Retro-Modern ผสมผสานความคลาสสิกและความทันสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ด้านหน้ารถมีไฟหน้าทรงกลมขนาดใหญ่ กระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ตัวรถมีรุ่นย่อยให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่นคือ
ภาพจาก Nissan
Nissan Leaf เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของนิสสันที่ได้รับความนิยมมากมายไปทั่วโลก ราคารถไฟฟ้าคันนี้เริ่มต้นที่ 1,590,000 บาท โดย Nissan Leaf รุ่นปี 2023 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้ระยะทางสูงสุด 311 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 149 แรงม้าและแรงบิด 320 นิวตันเมตร ช่วยให้เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 7.9 วินาที ตัวรถมีดีไซน์ภายนอกที่ดูสปอร์ตและทันสมัย กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้า LED ทรงบูมเมอแรง และไฟท้ายแนวนอนสวยสะดุดตา
นอกจากนี้ Nissan Leaf ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงมากมาย เช่น ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันตามความเร็วรอบเครื่องยนต์ ระบบเตือนป้ายจราจร และระบบเตือนจุดอับสายตา ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะยอดเยี่ยมที่น่าสนใจอีกคันหนึ่ง
แต่สำหรับใครที่ยังลังเลอยู่ ว่าควรจะซื้อรถไฟฟ้ามาใช้ดีหรือไม่ การใช้บริการรถเช่าก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง ที่ช่วยให้เราได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ และตัดสินใจได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
และทั้งหมดนี้ก็คือ 7 รถไฟฟ้าน่าใช้ปี 2024 ที่ให้คุณได้พิจารณาเป็นทางเลือก ในเรื่องแบรนด์ รูปลักษณ์ ระยะทางในการวิ่ง และราคา ทั้งนี้ราคาของรถยนต์อาจมีความคลาดเคลื่อนเพราะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ท่านสามารถตรวจเช็กราคา ณ ปัจจุบันเพื่อความแน่ใจได้ในเว็บไซต์ของแบรนด์รถโดยตรงครับ
รถ EV ใช้แบตเตอรี่ 12V เหมือนรถสันดาปก็ต้องใช้ที่ชาร์จแบตรถยนต์ CTEK ได้เช่นกันหากจอดทิ้งนาน เพราะแบตเตอรี่ที่เก็บพลังงานไฟฟ้าเพื่อส่งไปเลี้ยงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ของตัวรถนั้น เป็นคนละลูกกับแบตเตอรี่ที่เก็บพลังงานไฟฟ้าเพื่อนำไปขับเคลื่อนเครื่องยนต์ ฉะนั้นหากต้องจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน คุณก็ควรรีบใช้ CTEK ก่อนสาย เพราะอาการแบตเตอรี่เสื่อมจากการจอดนานสามารถเกิดขึ้นได้กับรถทุกคันทุกประเภทครับ
“แม้รถไฟฟ้า EV จะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่มาก แต่หากจอดนาน ก็จะเจอปัญหาแบตฯหมด สตาร์ทไม่ติด แบตเตอรี่เสื่อม ต้องดูแลด้วยเครื่องชาร์จแบตเตอรี่เช่นเดียวกัน”
การดูแลแบตเตอรี่ที่ดีที่สุดคือการชาร์จไฟแบตเตอรี่ให้เต็มอยู่ตลอดเวลา CTEK จากสวีเดน ช่วยดูแลแบตเตอรี่ให้เต็มอยู่ตลอดเวลาโดยไม่ต้องเอารถไปวนขับ หรือคอยสตาร์ทรถให้เสียเวลา และ CTEK เป็นเจ้าของเทคโนโลยีลิขสิทธิ์การชาร์จที่ปลอดภัยต่อแบตเตอรี่ ระบบไฟภายในรถ และต่อผู้ใช้งาน เพียงแค่เสียบปลั๊กไฟบ้านแล้วคีบขั้วแบตเตอรี่หรือแบตเตอรี่ Terminal โดยไม่ต้องถอดขั้วแบตเตอรี่ หรือยกแบตเตอรี่ออกจากรถ CTEK ก็จะชาร์จแบตเตอรี่รถของคุณให้เต็มโดยอัตโนมัติเหมือนชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือ สะดวก ไม่ต้องเฝ้า สามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือนโดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสีย ไม่ต้องคอยสตาร์ทหรือเอารถไปวนขับให้สิ้นเปลืองน้ำมันอีกต่อไป
เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK ที่อยากแนะนำให้คุณได้ลองใช้คือ CTEK MXS 5.0 เป็นเครื่องชาร์จแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ (รถ EV ก็ใช้ได้) มีกระแสชาร์จสูงสุด 5A สำหรับแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด 12V ขนาด 1.2 - 110Ah รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ไม่มีความรู้เรื่องช่างก็สามารถใช้งานได้ ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติแทบทั้งหมด ตัวเครื่องนั้นมีขนาดเล็ก กะทัดรัด น้ำหนักเบา แต่ทนทานสูงสุด รับประกันถึง 5 ปี หากคุณกำลังมองหาเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ที่ครอบคลุมตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงมอเตอร์ไซค์หรือบิ๊กไบค์ CTEK MXS 5.0 ตอบโจทย์ความต้องการของคุณอย่างแน่นอน ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก CTEK MXS 5.0
*ทั้งนี้ราคาของรถยนต์อาจมีความคลาดเคลื่อนเพราะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ท่านสามารถตรวจเช็กราคา ณ ปัจจุบันเพื่อความแน่ใจได้ในเว็บไซต์ของแบรนด์รถโดยตรงครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก: caranddriver
12 เม.ย 2567
18 พ.ย. 2567
18 พ.ย. 2567
21 มิ.ย. 2567