Last updated: 29 พ.ค. 2567 | 16238 จำนวนผู้เข้าชม |
รถยนต์ถือเป็นยานพาหนะละเอียดอ่อนที่เราต้องใส่ใจและให้ความสำคัญ โดยเฉพาะชิ้นส่วนภายในอย่างแบตเตอรี่ที่เปรียบได้ดั่งหัวใจหลักของรถ ที่ถ้าเกิดเสียหายหรือมีปัญหาขัดข้องขึ้นมา รถยนต์ก็จะสตาร์ทไม่ติดและไม่สามารถใช้งานได้อย่างที่มันควรจะเป็น โดยแบตเตอรี่ทำหน้าที่อะไร มีความสำคัญอย่างไรกับรถยนต์ วันนี้เราได้รวบรวมความรู้ที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่มาให้ทุกคนได้ลองอ่านกันแล้วครับ
แบตเตอรี่รถเป็นอุปกรณ์สำคัญในรถยนต์ ทำหน้าที่เป็นแหล่งเก็บและจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถยนต์ หากแบตเตอรี่เสียหรือมีปัญหา มันก็จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อรถยนต์ทั้งคัน จนอาจเกิดเป็นอาการรถยนต์สตาร์ทไม่ติด หรือระบบการทำงานต่าง ๆ เกิดขัดข้องตามมา
โดยแบตเตอรี่จะทำงานด้วยปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างแผ่นธาตุตะกั่วกับกรดซัลฟิวริกที่อยู่ภายใน ปฏิกิริยานี้จะทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า ซึ่งตัวแบตเตอรี่จะเก็บพลังงานไว้และปล่อยออกมาเมื่อถูกใช้งาน แบตเตอรี่ถือเป็นแหล่งพลังงานหลักของรถเมื่อเครื่องยนต์หยุดทำงานหรือดับเครื่อง แต่ทันทีที่รถสตาร์ทเครื่องแล้ว ไดชาร์จจะกลายเป็นแหล่งจ่ายพลังงานหลักของรถยนต์ ส่วนแบตเตอรี่จะเปลี่ยนเป็นแหล่งพลังงานสำรอง เพื่อให้กระแสไฟฟ้าที่เลี้ยงอุปกรณ์ต่าง ๆ มีความเสถียร คงที่ และปลอดภัยมากที่สุด
แบตเตอรี่ในปัจจุบันนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทต่างก็มีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกันไป ดังนี้
ขั้วแบตเตอรี่ที่มีขี้เกลือเกาะจะทำให้การนำไฟฟ้าแย่ลง มีผลต่อการจ่ายไฟของแบตเตอรี่ ซึ่งมันอาจทำให้รถสตาร์ทไม่ติดหรือแบตเตอรี่เสื่อมไวขึ้น เจ้าของรถจึงควรหมั่นตรวจเช็กขั้วแบตเตอรี่อยู่เสมอว่ามีขี้เกลือเกาะหรือไม่ หากมีขี้เกลือเกาะก็สามารถล้างออกได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้แปรงสีฟันเก่าจุ่มโซดาแล้วนำมาขัดขั้วแบตเตอรี่ให้สะอาดก็เป็นอันเสร็จสิ้น
เราควรตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ เพราะน้ำกลั่นนั้นคือตัวนำไฟฟ้าในแบตเตอรี่ที่ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญ ที่ช่วยให้แบตสามารถทำงานได้ตามปกติ เจ้าของรถจึงจำเป็นต้องคอยระวังอย่าให้น้ำกลั่นแห้ง ต้องเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเสมอ โดยเลือกใช้น้ำกลั่นบริสุทธิ์ที่ได้มาตรฐาน ไม่ใช้น้ำกรดหรือน้ำเปล่า เพราะมันอาจส่งผลให้แบตเตอรี่ทำงานได้ไม่เต็มที่ จนสูญเสียแรงดันไฟฟ้าและเสื่อมประสิทธิภาพในที่สุด
การจอดรถทิ้งไว้นานเกินไปถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร เพราะตัวแบตเตอรี่จะคลายประจุไฟตลอดเวลาในช่วงที่เราไม่ได้ขับ ทำให้ไฟในตัวแบตอ่อนลงเรื่อย ๆ จนหมด ซึ่งถ้าหากเราปล่อยทิ้งไว้ไม่รีบแก้ไข แบตเตอรี่ก็จะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วและไม่สามารถใช้งานได้ในที่สุด ดังนั้นหากคุณมีเวลาคุณก็ควรนำรถออกไปขับบ้างอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อเป็นการเติมไฟให้เต็มแบตเตอรี่
หากคุณจำเป็นต้องจอดรถทิ้งไว้นานแต่ไม่มีเวลานำรถออกไปขับ คุณก็ควรใช้ที่ชาร์จแบตรถยนต์คอยชาร์จไฟให้เต็มอยู่เสมอ เพราะมันถือเป็นอีกหนึ่งวิธีดูแลแบตเตอรี่ที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องเสียเวลานำรถออกไปขับเองให้เปลืองน้ำมัน โดยการเลือกซื้อเครื่องชาร์จแบตเตอรี่นั้น เราควรเลือกใช้เครื่องชาร์จที่มีมาตรฐาน มีคุณภาพ มีเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมดี ๆ ที่เชื่อถือได้ อย่าคิดว่าเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ในตลาดจะเหมือนกันหมด เพราะการใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ที่ไม่มีคุณภาพ อาจทำให้ระบบไฟฟ้าของตัวรถเสียหายได้เลยทีเดียว
เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK เป็นเครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี 8 ขั้นตอนการชาร์จลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศสวีเดน โดย CTEK จะชาร์จไฟด้วยกระแสสูงสุดให้เต็มถึง 80% หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ลดกระแสลงพร้อมตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม 100% เพื่อป้องกันแบตเตอรี่ Overcharge ทำให้เราสามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือนโดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสีย ไม่ต้องคอยสตาร์ทหรือเอารถไปวนขับให้สิ้นเปลืองน้ำมันอีกต่อไป
พร้อมป้องกันปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมจากการจอดนานที่ต้นเหตุ ด้วยเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK MXS 5.0 เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะที่ขายดีที่สุดในท้องตลาด เทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศสวีเดน ใช้งานง่าย ปลอดภัย รับประกัน 5 ปี ไม่ต้องมีความรู้เรื่องช่างก็สามารถใช้งานได้ในทันที มาพร้อมกับระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม สามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือน ๆ โดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสีย เป็นมิตรกับระบบไฟฟ้าภายในตัวรถอย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก
car.kapook.com/view254
21 มิ.ย. 2567
12 เม.ย 2567
18 พ.ย. 2567
18 พ.ย. 2567