แบตเตอรี่รถยนต์มีหน้าที่อะไรบ้าง? และสำคัญอย่างไร

Last updated: 29 พ.ค. 2567  |  16246 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รถยนต์ถือเป็นยานพาหนะละเอียดอ่อนที่เราต้องใส่ใจและให้ความสำคัญ โดยเฉพาะชิ้นส่วนภายในอย่างแบตเตอรี่ที่เปรียบได้ดั่งหัวใจหลักของรถ ที่ถ้าเกิดเสียหายหรือมีปัญหาขัดข้องขึ้นมา รถยนต์ก็จะสตาร์ทไม่ติดและไม่สามารถใช้งานได้อย่างที่มันควรจะเป็น โดยแบตเตอรี่ทำหน้าที่อะไร มีความสำคัญอย่างไรกับรถยนต์ วันนี้เราได้รวบรวมความรู้ที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่มาให้ทุกคนได้ลองอ่านกันแล้วครับ

 

พาดูแบตเตอรี่รถยนต์ทำหน้าที่อะไร มีความสำคัญอย่างไร

แบตเตอรี่ทำหน้าที่อะไร มีความสำคัญอย่างไรหน้าที่และส่วนประกอบของแบตเตอรี่รถยนต์

แบตเตอรี่รถเป็นอุปกรณ์สำคัญในรถยนต์ ทำหน้าที่เป็นแหล่งเก็บและจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถยนต์ หากแบตเตอรี่เสียหรือมีปัญหา มันก็จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อรถยนต์ทั้งคัน จนอาจเกิดเป็นอาการรถยนต์สตาร์ทไม่ติด หรือระบบการทำงานต่าง ๆ เกิดขัดข้องตามมา

หน้าที่ของแบตเตอรี่รถ

  • หน้าที่จ่ายไฟตอนสตาร์ทเครื่องยนต์ การสตาร์ทเครื่องยนต์จำเป็นต้องใช้กระแสไฟฟ้าจำนวนมาก กระแสไฟฟ้าดังกล่าวมาจากแบตเตอรี่ แบตเตอรี่จะจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับมอเตอร์สตาร์ทเพื่อหมุนเครื่องยนต์ให้ติด
  • จ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถยนต์ เมื่อเครื่องยนต์ทำงาน อุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในรถยนต์ จะใช้กระแสไฟฟ้าจากไดชาร์จ โดยตัวไดชาร์จจะผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อจ่ายให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถ
  • เป็นแหล่งเก็บและสำรองกระแสไฟฟ้าสำรอง หากเกิดเหตุการที่ไดชาร์จไม่สามารถผลิต กระแสไฟฟ้าส่วนที่เหลือจะถูกเก็บไว้ในแบตเตอรี่เป็นพลังงานสำรอง
  • ในกรณีที่เครื่องยนต์ดับหรือไดชาร์จไม่สามารถทำงานได้ แบตเตอรี่ก็จะเป็นแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถยนต์ของคุณ

ส่วนประกอบต่าง ๆ ภายในแบตเตอรี่

  • ขั้วแบตเตอรี่ (Terminal)เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างแบตเตอรี่กับระบบไฟฟ้าของรถยนต์ 
  • แผ่นธาตุ (Plate) เป็นส่วนประกอบหลักที่ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้า โดยแผ่นธาตุบวกทำจากตะกั่วไดออกไซด์ (PbO2) ส่วนแผ่นธาตุลบทำจากตะกั่ว (Pb)
  • แผ่นกั้น (Separator) เป็นวัสดุพลาสติกหรือยางที่ทำหน้าที่แยกแผ่นธาตุบวกจากแผ่นธาตุลบเพื่อป้องกันการลัดวงจร
  • กรดแบตเตอรี่ (Battery Acid) เป็นสารละลายกรดซัลฟูริก (H2SO4) และน้ำ (H2O) ที่มีค่าความเป็นกรด (pH) ประมาณ 1.2
  • เปลือกแบตเตอรี่ (Container) เป็นกล่องพลาสติกหรือยางที่ทำหน้าที่บรรจุส่วนประกอบต่างๆ ของแบตเตอรี่

โดยแบตเตอรี่จะทำงานด้วยปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างแผ่นธาตุตะกั่วกับกรดซัลฟิวริกที่อยู่ภายใน ปฏิกิริยานี้จะทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า ซึ่งตัวแบตเตอรี่จะเก็บพลังงานไว้และปล่อยออกมาเมื่อถูกใช้งาน แบตเตอรี่ถือเป็นแหล่งพลังงานหลักของรถเมื่อเครื่องยนต์หยุดทำงานหรือดับเครื่อง แต่ทันทีที่รถสตาร์ทเครื่องแล้ว ไดชาร์จจะกลายเป็นแหล่งจ่ายพลังงานหลักของรถยนต์ ส่วนแบตเตอรี่จะเปลี่ยนเป็นแหล่งพลังงานสำรอง เพื่อให้กระแสไฟฟ้าที่เลี้ยงอุปกรณ์ต่าง ๆ มีความเสถียร คงที่ และปลอดภัยมากที่สุด

CTA_CTEK XS 5.0

 

แบตเตอรี่มีกี่ประเภท

แบตเตอรี่ในปัจจุบันนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทต่างก็มีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกันไป ดังนี้

  • แบตเตอรี่น้ำ (WET) แบตเตอรี่ชนิดตะกั่วกรดที่ถูกใช้งานในรถยนต์ทั่วไป มีส่วนประกอบภายในคือโลหะผสมระหว่างตะกั่วกับพลวง ราคาถูก มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มีความทนทานต่อการประจุไฟเกินและคายประจุ
  • แบตเตอรี่แห้ง (SMF) เป็นแบตเตอรี่ที่ใช้งานง่าย ดูแลง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน แบตเตอรี่แห้งมีค่าแอมป์และค่า CCA ที่สูงกว่าแบตเตอรี่น้ำ
  • แบตเตอรี่กึ่งแห้ง (MF) เป็นแบตเตอรี่ที่มีความคล้ายคลึงกับแบตเตอรี่แห้ง แต่มีรูให้เติมน้ำกลั่นได้เหมือนกับแบตเตอรี่น้ำ มีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 3 ปี ไม่จำเป็นต้องดูแลรักษาบ่อยเหมือนแบตเตอรี่น้ำ แค่หมั่นเติมน้ำกลั่นปีละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว
  • แบตเตอรี่ไฮบริด เป็นแบตเตอรี่ที่ถูกพัฒนาขึ้นจากแบตเตอรี่น้ำ มีโครงสร้างภายในประกอบไปด้วยโลหะผสมระหว่างตะกั่วกับแคลเซียมเฉพาะแผ่นธาตุลบ ทำให้อัตราการระเหยของน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ชนิดนี้น้อยกว่าแบตเตอรี่น้ำหลายเท่า เหมาะกับรถที่ใช้งานหนัก ๆ เช่น รถบรรทุก รถโดยสาร หรือรถรับจ้างทั่วไป เป็นต้น
  • แบตเตอรี่เจล (GEL) เป็นแบตเตอรี่ที่ถูกพัฒนาขึ้นจากแบตเตอรี่ชนิดตะกั่วกรด สามารถกักเก็บพลังงานไฟฟ้าได้ดีกว่าแบตเตอรี่ทั่วไปถึง 20% มี มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มีความทนทานสูง ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นหรือพึ่งพาการดูแลรักษาอะไรที่ยุ่งยาก
  • แบตเตอรี่ AGM เป็นแบตเตอรี่ชนิดใยแก้วที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อรองรับรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยจำพวกรถยุโรปรุ่นใหม่ ๆ ถือเป็นแบตเตอรี่คุณภาพสูง ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น อายุการใช้งานยาวนาน สามารถชาร์จกระแสไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วหลายเท่าตัวหากเทียบกับแบตเตอรี่ชนิดอื่น
  • แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เป็นแบตเตอรี่ที่ถูกพัฒนาขึ้นให้มีขนาดเล็กและมีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงกว่าแบตเตอรี่ชนิดอื่น ๆ สามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้นานกว่า มีอัตราการชาร์จที่รวดเร็ว พร้อมจ่ายไฟได้อย่างเสถียรและคงที่ อีกทั้งยังไม่มีส่วนประกอบที่เป็นอันตรายต่อธรรมชาติและมนุษย์

 

วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่ที่ถูกต้อง

1. ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่อยู่เสมอ

ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่อยู่เสมอ

ขั้วแบตเตอรี่ที่มีขี้เกลือเกาะจะทำให้การนำไฟฟ้าแย่ลง มีผลต่อการจ่ายไฟของแบตเตอรี่ ซึ่งมันอาจทำให้รถสตาร์ทไม่ติดหรือแบตเตอรี่เสื่อมไวขึ้น เจ้าของรถจึงควรหมั่นตรวจเช็กขั้วแบตเตอรี่อยู่เสมอว่ามีขี้เกลือเกาะหรือไม่ หากมีขี้เกลือเกาะก็สามารถล้างออกได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้แปรงสีฟันเก่าจุ่มโซดาแล้วนำมาขัดขั้วแบตเตอรี่ให้สะอาดก็เป็นอันเสร็จสิ้น

2. ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่เป็นประจำ

ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่เป็นประจำ

เราควรตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ เพราะน้ำกลั่นนั้นคือตัวนำไฟฟ้าในแบตเตอรี่ที่ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญ ที่ช่วยให้แบตสามารถทำงานได้ตามปกติ เจ้าของรถจึงจำเป็นต้องคอยระวังอย่าให้น้ำกลั่นแห้ง ต้องเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเสมอ โดยเลือกใช้น้ำกลั่นบริสุทธิ์ที่ได้มาตรฐาน ไม่ใช้น้ำกรดหรือน้ำเปล่า เพราะมันอาจส่งผลให้แบตเตอรี่ทำงานได้ไม่เต็มที่ จนสูญเสียแรงดันไฟฟ้าและเสื่อมประสิทธิภาพในที่สุด

3. นำรถไปขับอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง

นำรถไปขับอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง

การจอดรถทิ้งไว้นานเกินไปถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร เพราะตัวแบตเตอรี่จะคลายประจุไฟตลอดเวลาในช่วงที่เราไม่ได้ขับ ทำให้ไฟในตัวแบตอ่อนลงเรื่อย ๆ จนหมด ซึ่งถ้าหากเราปล่อยทิ้งไว้ไม่รีบแก้ไข แบตเตอรี่ก็จะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วและไม่สามารถใช้งานได้ในที่สุด ดังนั้นหากคุณมีเวลาคุณก็ควรนำรถออกไปขับบ้างอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อเป็นการเติมไฟให้เต็มแบตเตอรี่

4. ใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่

ใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่

หากคุณจำเป็นต้องจอดรถทิ้งไว้นานแต่ไม่มีเวลานำรถออกไปขับ คุณก็ควรใช้ที่ชาร์จแบตรถยนต์คอยชาร์จไฟให้เต็มอยู่เสมอ เพราะมันถือเป็นอีกหนึ่งวิธีดูแลแบตเตอรี่ที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องเสียเวลานำรถออกไปขับเองให้เปลืองน้ำมัน โดยการเลือกซื้อเครื่องชาร์จแบตเตอรี่นั้น เราควรเลือกใช้เครื่องชาร์จที่มีมาตรฐาน มีคุณภาพ มีเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมดี ๆ ที่เชื่อถือได้ อย่าคิดว่าเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ในตลาดจะเหมือนกันหมด เพราะการใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ที่ไม่มีคุณภาพ อาจทำให้ระบบไฟฟ้าของตัวรถเสียหายได้เลยทีเดียว

 

ดูแลแบตเตอรี่รถจอดนานด้วยเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK

เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK เป็นเครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี 8 ขั้นตอนการชาร์จลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศสวีเดน โดย CTEK จะชาร์จไฟด้วยกระแสสูงสุดให้เต็มถึง 80% หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ลดกระแสลงพร้อมตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม 100% เพื่อป้องกันแบตเตอรี่ Overcharge ทำให้เราสามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือนโดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสีย ไม่ต้องคอยสตาร์ทหรือเอารถไปวนขับให้สิ้นเปลืองน้ำมันอีกต่อไป


พร้อมป้องกันปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมจากการจอดนานที่ต้นเหตุ ด้วยเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK MXS 5.0 เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะที่ขายดีที่สุดในท้องตลาด เทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศสวีเดน ใช้งานง่าย ปลอดภัย รับประกัน 5 ปี ไม่ต้องมีความรู้เรื่องช่างก็สามารถใช้งานได้ในทันที มาพร้อมกับระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม สามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือน ๆ โดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสีย เป็นมิตรกับระบบไฟฟ้าภายในตัวรถอย่างแน่นอน

เครื่องชาร์จ CTEK MXS 5.0

 

ขอบคุณข้อมูลจาก
car.kapook.com/view254

firestonecompleteautocare.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้