Last updated: 29 มี.ค. 2567 | 48303 จำนวนผู้เข้าชม |
แบตเตอรี่เสมือนหัวใจของรถ ที่เราต้องดูแลใส่ใจ และให้ความสำคัญ เพราะมันคือแหล่งไฟที่คอยจ่ายพลังงานไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ทั่วทั้งคัน ซึ่งถ้าหากแบตเตอรี่มีเสื่อมสภาพ ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ มันก็อาจเกิดปัญหามากมายขึ้นตามมาได้ เช่น รถสตาร์ทไม่ติด อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เสียหาย โดยเฉพาะกล่อง ECU หรือ ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงานของรถ ค่าซ่อมหลักหมื่นถึงแสน เป็นต้น วันนี้ APRTECH จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแบตรถยนต์และวิธีการดูแลรักษามาฝากครับ
โดยทั่วไปแล้วแบตเตอรี่รถยนต์จะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2-5 ปี ขึ้นอยู่กับประเภท ยี่ห้อ คุณภาพ ราคา และพฤติกรรมในการใช้รถ ว่าทะนุถนอมและดูแลรักษาดีมากขนาดไหน หากคุณดูแลแบตเตอรี่เป็นอย่างดี ใช้งานรถเป็นประจำ ใช้ที่ชาร์จแบตรถยนต์คอยชาร์จไฟอย่างสม่ำเสมอในช่วงที่ไม่ได้ขับ แบตเตอรี่ก็จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน สามารถใช้ติดต่อได้หลายปีครับ แบตเตอรี่บางลูกที่คุณภาพสูงและได้รับการดูแลอย่างดี จะสามารถใช้งานได้ถึง 10 ปีเลยทีเดียว แต่ถ้าคุณดูแลรักษาแบตเตอรี่ไม่ดี จอดรถทิ้งไว้นานหรือปล่อยให้ไฟหมดจนเกิดอาการแบตรถยนต์หมดสตาร์ทไม่ติดบ่อย ๆ แบตเตอรี่ก็จะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วและมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าปกติครับ
“ดังนั้นหากถามว่าแบตรถยนต์ใช้ได้กี่ปี คำตอบที่ถูกต้องคือประมาณ 2-5 ปี โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ที่แตกต่างกันไปนั่นเองครับ”
แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม คืออาการที่แบตเตอรี่อ่อนกำลัง เก็บไฟไม่อยู่และไม่รับการชาร์จไฟ จนไม่สามารถใช้งานหรือสตาร์ทรถได้อีกต่อไป เกิดขึ้นได้ด้วยหลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลักที่พบได้บ่อยมีด้วยกันดังนี้ครับ
การลืมปิดไฟส่องสว่างตามส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ภายในตัวรถไว้ทั้งคืน จะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์หมดและเสื่อมไวขึ้น นี่ถือเป็นสาเหตุสำคัญอันดับต้น ๆ ที่เจ้าของรถหลายท่านมักพลาดและลืมกันบ่อยที่สุด หากลืมบ่อย ๆ แบตเตอรี่ก็จะมีอายุการใช้งานที่สั้นลงกว่าปกติมากเลยครับ
วิธีดูแลรักษา เราจึงควรตรวจเช็กรถให้ดีทุกครั้งหลังจอดเสร็จ พยายามสำรวจและตรวจสอบให้ดีว่าคุณลืมปิดไฟอะไรทิ้งไว้หรือไม่ เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เพื่อลดปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมก่อนเวลาอันควร
ในกรณีที่รถคุณใช้แบตเตอรี่น้ำ คุณควรเลือกใช้น้ำกลั่นที่ดีและมีคุณภาพ เพราะหากน้ำกลั่นสกปรกหรือมีสิ่งปนเปื้อน มันจะทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่ไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้แบตเตอรี่เก็บไฟไม่อยู่ และทำให้แบตเตอรี่หมดหรือเสื่อมสภาพไวขึ้น
วิธีดูแลรักษา เจ้าของรถควรใช้น้ำกลั่นที่มีมาตรฐาน เพื่อรับประกันว่าตัวแบตเตอรี่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังควรทำความสะอาดตัวแบตเตอรี่ก่อนเติมทุกครั้ง โดยเฉพาะบริเวณจุกเติมน้ำกลั่น เพื่อไม่ให้มีสิ่งสกปรกเข้าไปเจือปนในระหว่างการเติมครับ
การจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน ถือเป็นสาเหตุสำคัญอันดับหนึ่งที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไวขึ้น เพราะแบตเตอรี่จะคายประจุไฟออกมาตลอดเวลาในช่วงที่เราไม่ได้ขับ เมื่อแบตเตอรี่สูญเสียประจุไปมาก ตัวแบตก็จะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วและไม่สามารถใช้งานต่อได้ในที่สุด
วิธีดูแลรักษา เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้น คุณจึงควรนำรถออกไปขับอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง หรือเลือกใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์คอยชาร์จไฟให้เต็มอยู่เสมอ เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ให้ยาวนานเสมือนรถที่ถูกนำไปขับเป็นประจำครับ
“เพราะการดูแลแบตเตอรี่ที่ดีที่สุดคือการชาร์จไฟแบตเตอรี่ให้เต็มอยู่ตลอดเวลา”
อ่านมาถึงตรงนี้ทุกคนคงจะทราบกันแล้วนะครับว่าแบตรถยนต์ใช้ได้กี่ปี และหากคุณมีรถหลายคันแต่ไม่ค่อยได้ขับ ต้องจอดทิ้งไว้นานเสี่ยงรถสตาร์ทไม่ติด ให้รีบใช้ CTEK ชาร์จแบตรถยนต์ก่อนสาย เพราะ CTEK จะช่วยรักษาไฟให้เต็มแบตเตอรี่อยู่ตลอด ป้องกันแบตเตอรี่เสื่อม ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานเต็มประสิทธิภาพ ช่วยคุณประหยัดเวลาไม่ต้องคอยสตาร์ทหรือนำรถออกไปวนขับบ่อย ๆ ให้เสียเวลา รับรองว่าการใช้ CTEK จะช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นอย่างแน่นอน
ป้องกันแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมที่ต้นเหตุ ด้วยเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK MXS 5.0 สำหรับรถยนต์ เพราะ CTEK เป็นเครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะจากสวีเดน ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ผลิตรถชั้นนำมากที่สุดในท้องตลาด เป็นเจ้าของเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะ ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ ใช้งานง่าย ปลอดภัย ทนทาน รับประกันถึง 5 ปี ไม่ต้องมีความรู้เรื่องช่างก็สามารถใช้งานได้ในทันที มาพร้อมกับระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม สามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือน ๆ โดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสีย ไม่ต้องคอยสตาร์ท ไม่ต้องคอยเอารถไปวนขับให้เปลืองน้ำมันอีกต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก: www.cockpit.co.th/post/249/%E0%B9%81%
18 พ.ย. 2567
18 พ.ย. 2567
21 มิ.ย. 2567
12 เม.ย 2567